Experience life for Analog Minimalism

13/04/2025

Experience life for Analog Minimalism
หากวันหนึ่งไม่ได้ใช้หน้าจอจะเป็นยังไงนะ?

คำอธิบายภาพ

      ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้คอมพิวเตอร์/มือถือ ในการทำงานและกิจกรรมอื่นๆอย่างน้อย 14-16 ชั่วโมงต่อวันในทุกๆ วัน ผมเลยลองอยากจะทำอะไรชักอย่างเพื่อลดการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งโลกปัจจุบันมันเบนเข็มไปทางโลกดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ Analog Minimalism ช่วงระยะเวลา 1 วันโดยงดใช้มือถือ (ปิดมือถือ) ปิดคอมพิวเตอร์ ใช้เงินสด (ธนบัตร) เท่านั้น สำหรับส่วนอื่นๆ ก็ยังคงเดิม และวันนั้นก็มาถึง

      เอ้ยๆ จบเกม(หมาที่เรารัก) Dota2 ขณะที่เล่นออนไลน์สู้กับบอทอย่างเพื่อนร่วม nostr หมออ่านและพี่อามบน hivetalk จบวันก็ได้นอน ส่วนตัวก็พยายามเล่นมือถือจนเผลอหลับไป เช้าตื่นมาก็ควานหามือถือที่อยู่ข้างตัวบนเตียง กดเปิด อ้าวจอดับไปแล้ว ผมก็คิดในใจ อ่อวันนี้ผมจะทำชาเลนท์นี่หนา

      ผมนอนอยู่บนเตียงค่อนข้างนานพอสมควรหลังจากตื่นมาแล้ว สมองเองก็รู้สึกโล่งแปลกๆ มันไม่มีเสียงหรือไฟจากหน้าจออะไรเลย เสียงส่วนใหญ่ก็มาจากธรรมชาติในชุมชนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลย เสียงนก เสียงซาๆ เสียงบ้านข้างๆคุยกัน เสียงฝนตกที่มีลมเบาๆ ออกมา พลางนึกย้อนไปตอนสมัยอายุ 12-14 ช่วงมัธยมที่ไม่มีอะไร และกระนั้นเองในวันนี้เองปกติก็จะมีสิ่งที่ต้องทำอยู่ในแต่ละสัปดาห์อยู่แล้วอย่างชักผ้า อะไรแบบนี้ แต่คราวนี้ต่างออกไป จนอากาศในห้องเริ่มร้อนๆ มากขึ้นทำให้ตัวเองต้องลุกออกจากเตียงเพื่อไปหาอะไรทำในวันนั้น

      โดยปกติต้องจับมือถือแต่วันนี้กลายเป็นว่ามือทั้งสองนั้นกลับโล่งๆ ไม่มีอะไรจับ ก็เดินไปตากแดดเหยียบหินความรู้สึกกลับเจ็บมากกว่าปกติ อาจจะโพกัสกับความรู้สึก ณ ขณะนั้นมากกว่า โดยช่วงเวลาดังกล่าวกลับไม่ได้คิดอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ ทำให้เรากลับมองรอบๆ ตัวช้าลง ยิ่งไม่มีเวลาให้ดูด้วยแล้วยิ่งทำให้บางทีกระวนกระวายใจเมื่อไรจะหมดวันนะ แต่ก็มีบางจังหวะนะที่มีเสียงหลอนอยู่ในหู หมายถึงเสียงที่เราฟังบ่อยๆ จาก youtube มักจะหลอนในหูมาเป็นระยะๆ แต่เพียงว่าเราไม่เปิดอุปกรณ์ดังกล่าวก็เท่านั้นเอง แต่พอไม่โฟกัสเสียงเหล่านั้นก็หายไป

      ช่วงระหว่างชักผ้าก็ทำเนื้อสเต็กเหมือนเช่นเคย ทีนี้พอไม่มีมือถือในการจับเวลาก็ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ ในการจี้เนื้อดังกล่าวซึ่งทำให้ได้โฟกัสการทำทีละอย่าง ประสิทธิภาพค่อนข้างดีขึ้น ทำเสร็จระหว่างรอเนื้อซุ่มน้ำก็ตากผ้าสลับกันไปกลับมากินก็เน้นโพกัสการกินอย่างเดียว ซึ่งความสะอึกระหว่างตอนกินก็ไม่มี ทีนี้การชักผ้ารอบที่ 2 ระหว่างรออ้าวจะทำอะไรละ หนังสือในห้องนี้ไง เปิดคอมไม่ได้ก็มีหนังสือนี่แหละที่ดองกันเป็นชาติน่าจะกลมกล่อมแล้ว ล่าสุดที่ชื้อมา Economice in one lesson ก็เปิดอ่านระหว่างรอเวลา ด้วยบรรยากาศตอนนั้นครึ่มฟ้าครึมฝน ลมก็ใหลเข้ามาในหน้าต่าง ทำให้อ่านจนลืมเวลา ทั้งๆ นั่งอ่านอยู่หน้าจอคอมที่เราควรจะเปิด อ่านจนลืมเวลาไปเกือบครึ่งเล่ม ร่างกายก็ส่งสัญญาณว่าไม่ไหวละพักก่อนก็ไปตากผ้า และนอนมันชะเลย ซึ่งถึงเวลานี้ก็ผ่านไปครึ่งวันชะแล้ว

      ช่วงบ่ายก็ไม่มีอะไรก็เดินทางไปข้างนอกเพื่อแก้เบื่อก็เลย แวะไปกินกาแฟเจ้าประจำอย่าง Graz26 Café เช่นเคยได้แลกเปลี่ยนเรื่องนี้กับเจ้าของร้านและพูดคุยทั่วไป ซึ่งการไม่ใช้มือถือแบบนี้สิ่งที่ต้องมาทดแทนตอนนี้ก็คงจะเป็นหนังสือเล่มหนึ่งนี่แหละ อย่างน้อยๆ ก็เอาไว้แทนมือถือที่เราจะไถ่หน้าจอก็เอาไว้พลิกหนังสือแทน และอีกเรื่องก็แอบลำบากเหมือนกันคือการใช้เงินสด ก่อนไปชื้อของก็คงต้องมีแบงค์ย่อยก่อน อย่างน้อยก็แบงค์ร้อยต้องมีแหละ การใช้เงินสดแบบนี้สำหรับคนในปัจจุบันที่ไม่ได้คิดอะไรก็เริ่มจะยากขึ้นทุกที หากบางร้านรับแต่สแกนผมก็คงจะลำบากเหมือนกันเพราะเขาไม่มีเงินทอนให้ ต้องเตรียมเงินให้พอดีกับการจ่าย ไม่งั้นร้านค้าก็หาแลกเปลี่ยนเงินกันวุ่น

      หลังจากเสวนากับเจ้าของร้านเกือบชั่วโมงกว่าๆ ก็เดินทางออกไปเที่ยวดูสถานที่จัดงานประเพณีสงการณ์ในพื้นที่ การที่ไม่ได้เอามือถือออกมาด้วยทำให้ไม่ต้องคิดอะไรมากนัก แต่ความจำในการขับไปยังเส้นทางต่างๆนี่ต้องกลับมานั่งนึกถึงปกติหากไปเส้นทางไหนที่ไม่คุ้นต้องเปิด google map แต่ต้องอาศัยป้ายนำทาง ก็คงจะเอาตัวรอดมาได้ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว บรรยากาศตลอดทั้งวันนี้ที่ไม่ได้พกมือถือนั้น ทำให้เราได้โฟกัสกับสิ่งที่ทำในปัจจุบัน ระหว่างขับรถกลับบ้านก็กลับไม่ได้นึกอะไรด้วยซ้ำ ตกเย็นมาปกติก็เปิดคอมวันนี้ก็กลับมาอ่านหนังสือแทน ซึ่งเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่อ่านหนังสือ Economics in one lesson จนจบจนได้ อะไรกันครับเนี่ย 555

      Economics in one lesson เป็นหนังสือที่อธิบายถึงพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์ที่อธิบายที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย ปกติจะมองเป็น sector เฉพาะๆ แต่กลับไม่มองถึง sector อื่นที่เกี่ยวข้อง หนังสือเล่มนี้จะทำให้มองเห็นภาพโดยรวมว่าการกระทำบางอย่างหรือการอุดหนุนบางอย่างในบางอุตสาหกรรมทำให้อุตสาหกรรมอื่นกระทบอย่างไร การแทรกแซงตลาด การมีสหพันธ์แรงงาน การพิมพ์เงินสร้างผลกระทบอย่างไร การออกกฏหมายเสียภาษีทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะเป็นอย่างไรก็ไปหาสอยอ่านกันได้

      ท้ายวันก็จบวันโดยการอ่านหนังสือจนจบและตาเริ่มง่วงก็ไปนอนซึ่งก็จบวัน และตื่นเช้ามาวันนี้ เอ่อทำไมรู้สึกว่าไม่อยากเปิดมือถือและเปิดคอมละวะ เหมือนกับการรีเวิร์สการเสพโดปามีนจากความอยากรู้อะไรทุกอย่างในโลกดิจิตอลกลายเป็นว่าอยากจะอยู่ในความเงียบสงบแทน หรือว่าสมองชอบความขี้เกียจแบบนี้ นี่ยังอยากจะกลับไปปิดคอมและปิดมือถือและไม่ต้องสนใจอะไรอยู่บ้านเงียบๆ แล้วละสิ ถ้าไม่ติดว่ามีภาระกิจหรืองานที่ต้องทำอ่านะ แจ้งเตือนก็คงจะยังมีตลอดเวลาหากเข้าแอพดังกล่าว หลังจากนี้คงจะฝึกฝนทำอย่างน้อยสัปดาห์ละวันก็คงจะดี

      สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมดังกล่าวคือ ท้ายที่สุดหากเราบังคับจิตใจและมีความตั้งใจที่จะทำอะไรแล้ว เราก็ทำได้สำเร็จจนได้แหละ เรื่องที่ทำนี้มันอาจจะยากมากสำหรับบางท่านที่ต้องใช้เครื่องมือในการติดต่อตลอดเวลา อาจจะต้องหนีไปบนเกาะที่ไม่มีสัญญาณในการทำกิจกรรมแบบนี้ แต่บางทีการเพียงแค่เปลี่ยนกิจกรรมจากการเปิดมือถือเปิดคอมเปลี่ยนมาอ่านหนังสือที่จับต้องได้และหากิจกรรมทดแทน ก็น่าจะทำได้เหมือนกัน ก็เพียงแค่แบ่งช่วงเวลาระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ให้สมดุลก็คงจะเพียงพอแล้วละ


เราไม่ได้ไม่มีอะไรทำ… เราแค่ไม่ชินกับการอยู่กับตัวเอง

Article
สามารถสนับสนุนบทความนี้ผ่าน (Zap) ขอบคุณครับ